โรงน้ำดื่มพลังงานแสงอาทิตย์โรงเรียนศรีแสงธรรม
น้ำดื่มของโรงเรียนเดิมได้ติดตั้งเครื่องกรองน้ำมาเจาะแอ่งดินเพื่อให้นักเรียนได้ดืม ตอนเย็นก็จะล้างแอ่ง ตอนเช้าจะเปิดน้ำเข้าใหม่ แต่ปัญหาคือหน้าฝนจะมีตัวแมลงชอนไซเข้าไปอยู่ภายในน้ำแม้จะกรองแล้วแต่ตัวสัตว์ยังเข้าทางแอ่งดินได้จึงไม่ถูกสุขอนามัย ทางโรงเรียนจึงมีโครงการจัดตั้งน้ำดื่มของโรงเรียนใหม่เพื่อให้สะอาด ถูกสุขะอนามัย
โครงการน้ำดื่มสะอาดของโรงเรียนจะติดตั้งถังกรองจากขนาดเล็กไปก่อนตามงบประมาณที่มีอยู่เพื่อกรองน้ำใส่ถังน้ำดื่มและแ่ผ่นโซล่าเซลล์ไว้บนหลังคาอาคารเพื่อผลิตไฟฟ้าจ่ายลงให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในระบบน้ำดื่ม
ระบบผลิตไฟฟ้าจะทำเป็นแบบออนกริด และอ๊อฟกริดจาก อินเวอร์เตอร์ 1,000 วัตต์ ใช้แบตเตอรี่เก่ามาปรับกรด เพื่อกับประจุไฟฟ้าเพื่อใช้ในโรงน้ำดื่ม ทั้งนี้ยังสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้การประยุกต์ใช้พลังงานแสงอาทิตย์กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในภายให้เหมาะสม
นอกจากนี้น้ำในบ่อรอบโรงน้ำดื่มมีผู้ใจบุญเอาปลาดุกมาปล่อยไว้จำนวนมาก จึงได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเพิ่มอ๊อกซิเจนให้กับปลา รวมทั้งนำพืชน้ำมาปล่อยคือจอก เมื่อขยายตัวเต็มที่ก็นำกลับมาทำปุ๋ยหมัก ส่วนน้ำที่เลี้ยงปลาก็นำมารดในแปลงผักรอบๆโรงน้ำดื่มเพื่อเป็นโครงการอาหารกลางวันโดยปลูกไปตามท่อซีเมนต์ และยางรถยนต์เก่าเอามาตัดเป็นกระถาง
ทั้งนี้กิจกรรมปลูกผักบุ้งในีท่อซีเมนต์ไว้สำหรับอาหารกลางวันของโรงเรียนที่ทางโรงเรียนจัดไว้สำหรับนักเรียนโดยใช้งบจากการบริจาคข้าวเปลือกในแต่ละปีที่จัดงานบุญประทายข้าวเปลือก และปีนี้ได้จัดทำไฟฉายขอข้าวอีก ให้เพียงพอต่อจำนวนเพิ่มขึ้น จากการสำรวจเมนูอาหารกลางวันพบว่าแต่ละสัปดาห์จะมีหนึ่งวันที่ใช้ผักบุ้งประกอบอาหาร 15 กก.ราคาก็ 5-10 บาทต่อกิโล
หากเราซื้อเมล็ดผักบุ้งมาปลูกเองบนพื้นที่ 12 ตารางเมตร โดยปลูกครั้งละ 4 ตารางเมตร เว้นไปอีก 7 วัน ก็ปลูกอีก 4 ตารางเมตร และชุดสุดท้ายจะปลูกอีก 4 ตารางเมตร และหมุนวนไปตลอดจะทำใ้ห้มีผักบุ้งทุุุกสัปดาห์หากเราลดการซื้อลงสัปดาห์ละ 15 กิโลก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายของโรงเรียนลงไปได้เดือนละประมาณ 500 บาท
การรดน้ำผักบุ้งไม่ต้องการน้ำมาก เราสามารถที่จะสูบน้ำจากบ่อรอบโรงน้ำดื่มพลังงานแสงอาทิตย์มารดผักบุ้งโดยในบ่อจะเลี้ยงปลาดุกไว้ดูเล่นเอาน้ำเลี้ยงปลามาเป็นปุ๋ยให้กับผักเพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมี และยังมีปุ๋ยน้ำหมักเศษอาหาร กับปุ๋ยหมักไม่พลิกกองกลับ เอามาเป็นธาตุอาหารให้ผักบุ้งซึ่งเป็นปุ๋ยที่เราผลิตเอง
การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ 1,800 W. สามารถผลิตไฟฟ้าประมาณ 3,000 หน่วยต่อปี หากคิดว่าไฟฟ้าหน่วยละ 4.5 บาทก็จะประหยัดค่าไฟฟ้าประมาณ 13,000 บาทต่อปี และยังลดปริมาณคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ปีละประมาณ 2,000 กิโลคาร์บอน ซึ่งการผลิตไฟฟ้าจากฟอสซิลทำให้เกิดคาร์บอนไดอ๊อกไซค์สู่ชั้นบรรยาการอันเป็นสาเหตุให้โลกร้อน 564 กรัมต่อ 1 หน่วยไฟฟ้า
การปลูกผักบุ้งสัปดาห์ละ 4 กระถาง ซึ่งได้ประมาณ 15 กิโลกรัม หากคิดกิโลกรัมละ 30 บาทก็จะสามารถประหยัดรายจ่ายประมาณ 20,000 บาทต่อปี
นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการพึงพาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่มีหลายรูปแบบไม่ได้จำกัดเฉพาะการเกษตรเท่านั้นแต่ประยุกต์ได้ในหน่วยงาน องค์กร จนถึงระดับประะเทศ จำนวนเงินแม้ไม่มากแต่คุณค่า การปลูกฝังค่านิยมการพึ่งตนเองในทุกๆด้าน การฝึกความขยัน อดทน ประหยัดการสร้างหลักคุณธรรมในจิตใจนักเรียน รู้จักใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการเรียนรู้ภาคปฏิบัติ ย่อมมีค่ามากกว่าสมบัติใดๆคือจิตใจคนที่เข้าถึงธรรม เมื่อถึงธรรมก็คือถึงสุข เมื่อถึงสุขก็คือบุญเกิดขึ้นแล้ว
ทางโรงเรียนได้เปิดขอรับบริจาค เครื่องกรองน้ำ เครื่องทำน้ำเย็น และถังเก็บน้ำฝน ในโครงการจัดหาน้ำดื่มสะอาดให้กับนักเรียนได้ดำเนินการก่อสร้างติดตั้งจนแล้วเสร็จ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 160,705 บาท โดย
1. ค่าก่อสร้างอาคาร 32,705 บาท
2. ค่าติดตั้งระบบกรองน้ำ 52,000 บาท
3. ค่าติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 75,000 บาท
ได้รับการบริจาคทั้งสิ้นรวม 70,470 บาท
หากท่านใดสนใจร่วมบริจาคน้ำดื่มให้กับโรงเรียน สามารถร่วมบริจาคได้ที่ บัญชี
“โรงเรียนศรีแสงธรรม” ธ.กรุงไทย สาขา เทสโก้โลตัสพิบูลมังสาหาร เลขที่บัญชี 862-0-064355 หรือ
บัญชี “กองทุนการศึกษาวัดป่าศรีแสงธรรม” ธ.กรุงเทพ สาขาย่อยเทสโก้โลตัสพิบูลมังสาหาร เลขที่ 786 006 3333
ทั้งนี้ท่านยังสามารถนำใบเสร็จรับเงินไปลดหย่อนภาษีที่กรมสรรพากร ได้ 2 เท่าของเงินบริจาค (http://www.rd.go.th/publish/28653.0.html)
หากท่านบริจาคแล้วสามารถส่งหลักฐานการโอนได้ที่ sisaengtham@hotmail.com
หรือติดต่อ พระครูวิมลปัญญาคุณ 08 6233 134
4 พ.ย.58